กรุงลิสบอนของโปรตุเกสทำสถิติร้อนสุดในรอบ 37 ปี ขณะที่หลายประเทศในยุโรปยังคงเผชิญสภาพอากาศร้อนจัดผิดปกติเนื่องจากคลื่นความร้อนที่ปกคลุมภูมิภาค
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของโปรตุเกส ระบุว่า กรุงลิสบอนของโปรตุเกสทำสถิติร้อนสุดในรอบ 37 ปี หลังเผชิญอุณหภูมิ 44 องศาเซลเซียสเมื่อบ่ายวันเสาร์ ทำลายสถิติเดิมที่เคยทำไว้ที่ 43 องศาเซลเซียส เมื่อปี 2524 ขณะที่สถานที่ราว 26 แห่งในโปรตุเกสก็ทำสถิติร้อนที่สุดครั้งใหม่
สำนักงานอุตุนิยมวิทยายังประเมินว่า อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 46.8 องศาเซลเซียส ซึ่งบันทึกได้ที่เมืองอัลเวกาทางตอนกลางของโปรตุเกส แต่ยังไม่ทำลายสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้ 47.4 องศาเซลเซียส เมื่อปี 2546 โดยเมื่อวันศุกร์ได้เกิดไฟป่าที่เมืองโมชิเก้ทางภาคใต้ของประเทศ กินพื้นที่หลายพันไร่ และทำให้ประชาชนจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งต้องอพยพ และเมื่อวันเสาร์ไฟได้เพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นจากอุณหภูมิที่พุ่งสูงถึง 46 องศาเซลเซียส เนื่องจากคลื่นความร้อนที่ปกคลุมภูมิภาค
ขณะที่ทางการสเปนได้ออกประกาศเตือนภัยคลื่นความร้อนในพื้นที่ส่วนใหญ่ทางภาคกลาง ที่คาดว่าจะคงอยู่จนถึงเมื่อวานนี้ โดยอุณหภูมิจะเพิ่มสูงกว่า 42 องศาเซลเซียส ในพื้นที่บางส่วนของแคว้นอันดาลูเซีย และเอ็กเทรมาดูราเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมายังมีรายงานผู้เสียชีวิต 3 รายเนื่องจากอากาศร้อนจัด ส่วนที่เมืองกอร์โดบาทางภาคใต้อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 44 องศาเซลเซียส และมีรายงานการเกิดเหตุไฟป่าใกล้เมืองเนอร์วาและทางตอนใต้ของกรุงมาดริด
ส่วนในบางพื้นที่ของฝรั่งเศส ต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่พุ่งสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส และกว่า 37 องศาเซลเซียสในพื้นที่กรุงปารีส โดยทางการกรุงปารีสได้ติดตั้งตัวฉีดละอองน้ำเพื่อคลายความร้อนกว่า 822 จุด และสำนักงานอุตุนิยมวิทยาฝรั่งเศสได้ประกาศเฝ้าระวังคลื่นความร้อน ที่คาดว่าจะยังคงเกิดขึ้นไปจนถึงช่วงกลางสัปดาห์นี้
ที่เมืองโรวาเนมี ที่ตั้งอยู่ในเขตอาร์กติก เซอร์เคิล ของฟินแลนด์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองบ้านเกิดของซานตาคลอส อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 32 องศาเซลเซียส ขณะที่เบลเยียม อุณหภูมิเพิ่มขึ้นแตะ 35 องศาเซลเซียส เมื่อวันศุกร์ และคาดการณ์ว่า อุณหภูมิจะเพิ่มสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส ตลอดสัปดาห์นี้ และประกาศเตือนสภาพอากาศร้อนระอุ เนื่องจากไม่มีกระแสลมพัด