สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองฟีนิกซ์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ว่า คลื่นความร้อนรุนแรงในหลายรัฐทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 ราย ในจำนวนนั้นรวมถึงนักปั่นจักรยานมืออาชีพและนักปีนเขาที่เสียชีวิตขณะทำกิจกรรมดังกล่าว โดยอุณหภูมิร้อนจัดและสภาพแห้งแล้งยังทำให้เกิดไฟป่าหลายจุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐแอริโซนา และรัฐนิวเม็กซิโก
นายแลร์รี ซูเบร์วี โฆษกหน่วยควบคุมเพลิงเมืองฟีนิกซ์ในรัฐแอริโซนา เผยว่า ปรากฏการณ์คลื่นความร้อนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกปีในช่วงเวลานี้ แต่อุณหภูมิในปีนี้สูงกว่าที่ผ่านมา เกือบทำลายสถิติสูงสุด 122 องศาฟาเรนไฮต์ (50 องศาเซลเซียส) ของปี 2533 โดยอุณหภูมิเมื่อวันอาทิตย์เพิ่มสูงถึง 120 องศาฟาเรนไฮนต์ (48.8 องศาเซลเซียส) และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในวันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนสถานการณ์จะคลี่คลายและอุณหภูมิเริ่มลดลงในช่วงกลางสัปดาห์
สำนักงานบริการสภาพอากาศ (เอ็นดับเบิลยูเอส) เผยว่า อุณหภูมิเมื่อวันอาทิตย์เพิ่มสูงทำลายสถิติต่อวันในเขตแคลิฟอร์เนียใต้ เนื่องมาจากแนวความกดอากาศสูงบริเวณภูมิภาคโฟร์คอร์เนอร์ส ซึ่งได้แก่รัฐยูทาห์ รัฐแอริโซนา รัฐนิวเม็กซิโก และรัฐโคโลราโด โดยอุณหภูมิเมืองปาล์มสปริงส์ในรัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มสูงทำลายสถิติที่ 121 องศาฟาเรนไฮต์ (49.4 องศาเซลเซียส)
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/foreign/503942