สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จากกรณีชาวบังกลาเทศกว่า 500,000 คน ต้องถูกย้ายอพยพไปอยู่ที่พักพิงชั่วคราวหลังพายุไซโคลน “โรอานู” ความเร็วลม 88 กม./ชม. พัดถล่มภูมิภาคแถบชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 21 พ.ค. ก่อให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม บ้านเรือนเสียหายหรือถูกทำลายย่อยยับหลายพันหลังนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อ 22 พ.ค. แม้พายุไซโคลนจะอ่อนกำลังลงแล้ว แต่อิทธิพลของไซโคลนยังทำให้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ผู้เสียชีวิตมีเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 คนแล้ว รวมทั้งแม่และลูกสาวที่เสียชีวิตในเหตุดินถล่มในเมืองท่าจิตตะกอง ผลกระทบจากพายุไซโคลนยังทำให้ทางการบังกลาเทศต้องสั่งปิดท่าเรือหลายแห่ง ส่วนเสาไฟฟ้าโค่นล้มทั่วประเทศและยังก่อความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการจัดส่งอาหารกว่า 12.5 ล้านดอลลาร์ หลังน้ำทะเลทะลักเข้าท่วมร้านค้าและโกดังเก็บสินค้าหลายแห่งในจิตตะกอง เมืองศูนย์กลางการค้าพาณิชย์และท่าเรือสำคัญของประเทศ
ส่วนความคืบหน้าเหตุฝนตกหนักและน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของศรีลังกา ซึ่งเป็นอิทธิพลของไซโคลนโรอานูก่อนเข้าบังกลาเทศดังกล่าว หน่วยกู้ภัยเก็บกู้ศพผู้เสียชีวิตได้อีก 13 ศพ เมื่อคืนวันที่ 21 พ.ค. ในเขตได้รับผลกระทบหนักสุดคืออำเภอคาเกล ห่างกรุงโคลัมโบไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 100 กม. ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมเพิ่มเป็น 80 คน และยังมีคนสูญหายอีก 118 คน.
ที่มาของข่าวและภาพประกอบ : https://www.thairath.co.th/content/624185 (ภาพ: AFP)