ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ข่าวร้ายสำหรับชาวลาว เมื่อพัดผ่านเกาะลูซอนในตอนเช้าวันพุธ 27 ก.ค.นี้ ไต้ฝุ่นนกเต็นได้ทิ้งชาวฟิลิปปินส์ 25 คนเสียชีวิตไว้ข้างหลัง และ กำลังบ่ายหน้าเข้าสู่ทะเลจีนใต้ ขณะที่ทางการเวียดนามสั่งให้จังหวัดต่างๆ เตรียมรับมือกับพายุลูกใหม่ ในวันเดียวกันสำนักพยากรณ์ในย่านเอเชียหลายแห่ง ได้กล่าวเตือนว่า นกเต็นกำลังจะพัดเข้าภาคเหนือเวียดนาม ในเส้นทางเดียวกับพายุไห่หม่าเมื่อเดือนที่แล้ว
จากไต้ฝุ่นระดับ 1 (C-1) นกเต็นได้อ่อนกำลังลงสู่ระดับพายุโซนร้อนเมื่อพัดเข้าฝั่งฟิลิปปินส์ แต่กำลังจะทวีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 และ 2 ขณะพัดผ่านเกาะไหหลำของจีน และเฉียงลงใต้เข้าอ่าวตังเกี๋ย กลายเป็นพายุโซนร้อนเมื่อถึงชายฝั่งทะเล ทางตอนใต้ของกรุงฮานอยสุดสัปดาห์นี้
คาดว่านกเต็นจะอ่อนแรงลงเมื่อเข้าถึงฝั่งเวียดนาม ซึ่่งจะทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายจังหวัดภาคเหนือตอนล่างกับภาคกลางตอนบน ก่อนจะเคลื่อนเข้าสู่ภาคเหนือของลาว ซึ่งแม้จะลดระดับลงเป็นดีเปรสชบั่น แต่ก็คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนัก ในหลายแขวงภาคเหนือ กินบริเวณกว้างตั้งแต่เชียงขวาง หัวพัน เวียงจันทน์ จนถึงหลวงพระบาง ไม่ต่างไปจากพายุไห่หม่าปลายเดือนที่แล้ว
ในสัปดาห์ปลายเดือน มิ.ย. พายุโซนร้อนไห่หม่าก่อตัวขึ้นทางทิศตะวันออกของเกาะลูซอน บริเวณเดียวกับพายุนกเต็นในสัปดาห์นี้ และได้เคลื่อนตัวเป็นระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตรเข้าฝั่งเวียดนาม เคลื่อนตัวเฉียดกรุงฮานอยไป
พายุโซนร้อนลูกที่แล้วไม่เคยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางสูงถึงระดับไต้ฝุ่น แต่ในวันที่ 24 มิ.ย.ได้ทำให้ชาวเวียดนามเสียชีวิต 14 คน อีกกว่า 80 คนบาดเจ็บ บ้านเรือนราษฎรในหลายหมื่นหลังคาในหลายจังหวัดภาคเหนือได้รับความเสียหาย
พายุไห่หม่าได้ทำให้เกิดฝนตกหนักในภาคเหนือของลาวครอบคลุมแขวงหัวพัน เชียงขวาง เวียงจันทน์และไซยะบูลี ลงไปถึงบอลิคำไซกับคำม่วนในภาคกลาง ทางการยังคงตัวเลขผู้เสียชีวิตไว้ที่ 12 คน ขณะที่สื่อในประเทศนี้รายงานเอาไว้สูงถึง 17 ราย และพายุได้สร้างความเสียหายให้แก่ราษฎรลาวแบบเหลือคณานับ
สัปดาห์ที่แล้วกระทรวงการต่างประเทศลาวได้ออกเรียกร้องไปยังบรรดามิตรประเทศกับองค์การระหว่างประเทศต่างๆ ขอความช่วยเหลือเพื่อเยียวยาความเสียหายให้แก่ประชาชนผู้ประสบเคราะห์จากพายุไห่หม่า
การซ่อมแซมถนนกับสะพานเพิ่งจะแล้วเสร็จโดยส่วนใหญ่ ในขณะที่หน่วยงานของรัฐ และ บริษัทเอกชนและบริษัทลงทุนต่างประเทศ ยังคงระดมเงินและสิ่งของส่งไปช่วยเหยื่อพายุลูกนี้
ทางการฟิลิปปินส์กล่าวในวันพุธนี้ว่า พายุโซนร้อนนกเต็นซึ่งเป็นลูกที่ 10 ในปีนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 25 คน กว่า 640,000 คน ได้รับผลกระทบ ในนั้นหลายหมื่นคนต้องออกจากบ้านไปหลบอาศัยในแหล่งพักพิงที่มั่นคงและน้ำท่วมไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน หรือ อาคารตามสำนักงานหน่วยราชการต่างๆ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน
ก่อนหน้านั้นในวันอังคารสายการบินต่างๆ ที่บินเข้าออกกรุงมะนิลาถูกยกเลิกทั้งหมด และ เริ่มกลับคืนสู่ปกติในวันพุธนี้หลังจากพายุผ่านไป
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์เวียดนามออกพยากรณ์ในวันจันทร์เชื่อว่า พายุโซนร้อนนกเต็นจะพัดลงทางใต้ผ่านผ่านหมู่เกาะสแปร็ตลีย์ และทางการได้ขอให้จังหวัดต่างๆ ตั้งแต่ภาคกลางตอนล่างลงไปจนถึง จ.บ่าเหรียะ-หวุงเต่า และ จ.ก่ามาว เตรียมรับมือ
แต่ในวันอังคารพายุได้เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวอย่างชัดเจน และ กำลังบ่ายหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
"นกเต็น" (นกกระเต็น) เป็นชื่อที่ทางการลาวตั้งให้กับพายุในย่านแปซิฟิกตะวันตก เช่นเดียวกับอีกหลายชื่อรวมทั้ง "เกดสะหนา" ที่พัดเข้า 3 แขวงภาคใต้ในเดือน ก.ย.2552 ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก การเยียวยารักษาผู้ได้รับผลระทบยังดำเนินมาจนถึงวันนี้
สัปดาห์นี้นกปากแหลม ขนปีกสีฟ้าครามปนเขียว กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน.
ขอขอบคุณ http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9540000093035
ภาพประกอบ AFP PHTO/Charism Sayat.