สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ว่า ในรายงานของ “ไคลเมท เคาน์ซิล” องค์กรจับตาดูการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในออสเตรเลียกล่าวว่า ขณะนี้ออสเตรเลียกำลังเผชิญคลื่นความร้อนที่ทำให้ประเทศมีอุณหภูมิสูงมากในช่วงฤดูร้อนหรือที่เรียกว่า “แองกรี้ ซัมเมอร์” ซึ่งทำลายสถิติอุณหภูมิ ในมากกว่า 150 จุดทั่วประเทศ โดยในบางจุดที่อุณหภูมิร้อนเป็นประวัติการณ์ เช่น เมืองเพิร์ท 29.7 องศาเซลเซียส และแอดิแลด 44.7 องศาเซลเซียส เป็นต้น ขณะที่เมืองซิดนีย์ก็ต้องเผชิญกับอากาศที่แห้งที่สุดในรอบ 27 ปี
นายทิม แฟลนเนอรี นักวิทยาศาสตร์ของไคลเมท เคาน์ซิลกล่าวว่า ออสเตรเลียกำลังเผชิญ “แองกรี้ ซัมเมอร์” อีกครั้ง ด้วยการปกคลุมของคลื่นความร้อนและปรากฎการณ์ความร้อนอื่นๆในประเทศ ทั้งนี้ เมืองทางตะวันออกเฉียงใต้อย่าง แอดิแลด เมลเบิร์น แคนเบอร์รา กำลังถูกคลื่นความร้อนปกคลุม ส่วนบางพื้นที่ทางตอนใต้ทางตะวันตกและรัฐวิกตอเรีย ต้องเผชิญภัยไฟไหม้ป่า นอกจากนี้ ทางตะวันออกของประเทศอย่างรัฐควีนส์แลนด์ต้องเผชิญภัยแล้ง ในทางตรงกันข้ามพื้นที่ทางตอนเหนือและตะวันตกบางส่วน มีระดับน้ำฝนสูงผิดปกติ
ทั้งนี้ สถิติตั้งแต่ปี 2541 ระบุว่า ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มี 7 ปี ที่พบว่าอุณหภูมิสูงผิดปกติ ขณะที่ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา เดือนที่อุณหภูมิสูงที่สุดนั้นจะสูงขึ้นเรื่อยๆ จนในปัจจุบันสูงกว่าแต่ก่อนราว 5 เท่าแล้ว
นายแฟลนเนอรี เผยว่า การแก้ไขปัญหาคือต้องหยุดปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยให้อุณหภูมิไม่สูงไปมากกว่านี้
Credit : http://www.dailynews.co.th