สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ว่า พายุไต้ฝุ่น “อูตอร์” ซึ่งเป็นพายุที่แรงที่สุดในโลกในปีนี้ เคลื่อนตัวเข้าถล่มชายฝั่งจังหวัดออโรรา ซึ่งเป็นพื้นที่เทือกเขาทางตะวันออกของประเทศ ด้วยความเร็วลม 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วลมที่จุดศูนย์กลาง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กระแสลมแรงทำให้หลังคาบ้านเรือนประชาชน ปลิวกระจัดกระจาย สายไฟและเสาไฟหลักโค่น และยังมีดินถล่มในหลายหมู่บ้านห่างไกล มีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นชายวัย 22 ปี ถูกดินถล่มทับในจังหวัดเบนเกต เสียชีวิตระหว่างถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ไต้ฝุ่นลูกนี้ ยังทำให้เกิดคลื่นทะเลสูงถึง 2.5 เมตร และมีชาวประมงอย่างน้อย 45 คนสูญหาย โดยในจังหวัดปันกาซินัน ภาคเหนือของประเทศ มีชาวประมง 25 คนบนเรือ 3 ลำ ไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ ส่วนคนอื่น ๆ อีก 20 คน จากจังหวัดคาตันดัวเนส และคามาริเนส นอร์เต ทางตะวันออกของประเทศ ก็ยังไม่ทราบชะตากรรม เจ้าหน้าที่ก็ได้แต่หวังว่า พวกเขาเพียงเข้าไปหลบภัยตามถ้ำและเกาะใกล้เคียง เพื่อรอให้พายุพัดผ่าน และจะปรากฏตัวทันทีที่สภาพภูมิอากาศแจ่มใส
นอกจากนี้ ยังมีความวิตกกังวลหลายเมืองและหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล ที่ถูกตัดขาดเนื่องจากพายุลูกนี้ โดยเครือข่ายโทรคมนาคมที่ส่งไปในพื้นที่ก็ใช้การไม่ได้ และถนนสายสายก็ถูกตัดขาดจากดินถล่ม
ทั้งนี้ จะมีประชาชนหลายร้อยคนในฟิลิปปินส์ เสียชีวิตจากพายุประมาณ 20 ลูกที่พัดเข้าถล่มฟิลิปปินส์ในแต่ละปี
ไต้ฝุ่นอูตอร์ ซึ่งแปลว่า แนวพายุฝนฟ้าคะนอง ซึ่งเป็นภาษาพื้นเมืองชาวหมู่เกาะมาร์แชลล์ ในมหาสมุทรแปซิฟิก และสหรัฐเป็นผู้ตั้งชื่อพายุลูกนี้ เคลื่อนเข้าถล่มพื้นที่ตอนเหนือของหมู่เกาะลูซอน เมื่อเวลา 03.00 น.เช้าตรู่วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 02.00 น.ตามเวลาในไทย
Credit : http://www.dailynews.co.th