วันนี้ ( 29 ม.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลียว่า ประชาชนที่อยู่อาศัยตามแนวชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียยังคงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากอุทกภัยครั้งใหญ่ โดยกระแสน้ำจากแม่น้ำเริ่มไหลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่เมืองบริสเบน เมืองหลวงของรัฐควีนส์แลนด์แล้ว ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 4 ศพ
นายแคมเบลล์ นิวแมน นายกรัฐมนตรีรัฐควีนส์แลนด์ แถลงในวันนี้ว่า บริเวณที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ เมือง บันดาเบิร์ก ห่างจากเมืองบริเสบนไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 360 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาวัดปริมาณน้ำฝนได้สูงถึง 50 เซนติเมตร และมีรายงานบ้านเรือนกว่า 2,000 หลังต้องจมอยู่ใต้บาดาล นอกจากนี้ ยังมีรายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ศพ ในจำนวนนี้รวมถึงเด็กชายวัยเพียง 3 ขวบ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กู้ภัยระดมกำลังทั้งทางบกและทางอากาศ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ต้องปีนขึ้นมาอาศัยอยู่บนหลังคาบ้าน ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก อันเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุไซโคลน “ออสวาลด์”
ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ชาวรัฐควีนส์แลนด์ต้องเผชิญกับความเดือดร้อน และความเสียหายจากอุทกภัยครั้งใหญ่ ที่คร่าชีวิตผู้คนไปไม่ต่ำกว่า 30 ศพ และทำให้เมืองบริสเบน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศต้องจมอยู่ภายใต้บาดาล ทว่านิวแมนหวังว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้จะไม่เลวร้ายเหมือนที่ผ่านมา หลังมีการประเมินแล้วว่า ระดับน้ำสูงสุดในแม่น้ำในช่วง 2-3 วันนี้น่าจะอยู่ที่ราว 2.6 เมตร น้อยกว่าระดับน้ำเมื่อครั้งอุทกภัยใหญ่ในปี 2554 ซึ่งอยู่ที่ราว 7 เมตร
รายงานล่าสุดระบุว่า พายุฝนฟ้าคะนองได้เคลื่อนตัวลงไปทางทิศใต้แล้ว ส่งผลให้ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ออกประกาศเตือนภัยประชาชนทันที และมีรายงานการอพยพประชาชนในเมืองกราฟตันกว่า 2,500 คน หลังระดับน้ำในแม่น้ำคลาเรนซ์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่เมืองซิดนีย์มีรายงานเกิดคลื่นสูง และลมกระโชกแรงแล้ว
Credit: http://www.dailynews.co.th