สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่า มวลอากาศหนาวเย็นที่ก่อให้เกิดหิมะตกอย่างหนักทางตะวันออกของญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ศพ และเกิดอุบัติเหตุในหลายพื้นที่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบ 900 ราย
รายงานของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ระบุว่าหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่สื่อญี่ปุ่นพากันขนานนามให้ว่า “บอมบ์ ไซโคลน” ก่อให้เกิดหิมะตกหนา 8 เซนติเมตร บริเวณภาคตะวันออกของประเทศ ภายในระยะเวลา 9 ชั่วโมง ถือเป็นระดับหิมะที่สูงที่สุดในภูมิภาคตั้งแต่เดือนม.ค.2549 โดยที่เมืองโยโกฮามะ เมืองเอกของจังหวัดคานากาวะ มีรายงานหิมะตกหนักหนาถึง 13 เซนติเมตร ขณะที่ปริมาณหิมะบนพื้นที่ภูเขารอบกรุงโตเกียวสูงถึง 30 เซนติเมตร
ด้านโฆษกหน่วยกู้ภัยจังหวัดนากาโนะ แถลงว่า เจ้าหน้าที่พบชายวัย 71 ปี เสียชีวิตหลังพลัดตกลงไปในท่อระบายน้ำที่เปิดฝาทิ้งไว้ ขณะกำลังกวาดหิมะอยู่ภายนอกบ้านพักในพื้นที่เมืองชิโอะจิริ
ส่วนสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 891 รายเฉพาะในเขตกรุงโตเกียว และพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และผู้ขับขี่จักรยานยนต์ที่สูญเสียการควบคุมรถ ขณะขับขี่อยู่บนถนนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง ซึ่งส่งผลให้การจราจรบนถนนหลายสายติดขัดเป็นอัมพาต
สภาพอากาศเลวร้ายส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังระบบขนส่งมวลชนทางอากาศ โดยสารการบินเจแปน แอร์ไลน์ส ( เจเอแอล ) และออล นิปปอน แอร์เวย์ส ( เอเอ็นเอ ) 2 สายการบินชั้นนำของญี่ปุ่น ประกาศระงับเที่ยวบินในประเทศ ที่ออกเดินทางจากสนามบินฮาเนดะรวมแล้วกว่า 460 เที่ยว ขณะที่ผู้บริหารสนามบินประกาศปิดรันเวย์ชั่วคราว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตักหิมะออก
แม้เที่ยวบินระหว่างประเทศจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า แต่รายงานของทั้งสองสายการบินระบุว่า จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนเวลาเดินทางของเที่ยวบินบางเที่ยว ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสนามบินนาริตะกล่าวว่า มีการระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศแล้ว 71 เที่ยว ทำให้ผู้โดยสารกว่า 3,400 คนต้องติดค้างอยู่ที่สนามบิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจกผ้าห่ม ขนมปัง และน้ำดื่มให้แก่ผู้โดยสารที่เดือดร้อน เบื้องต้นประเมินว่า สถานการณ์น่าจะเริ่มกลับมาเป็นปกติภายในวันนี้
Credit: http://www.dailynews.co.th