พายุ แฟรงก์ (ภาพ: AFP)
สหราชอาณาจักรเผชิญพายุฤดูหนาวลูกที่ 3 ในรอบ 1 เดือน ทำให้เกิดฝนตกน้ำท่วมในภาคเหนือของอังกฤษ สกอตแลนด์ ไอร์แลนด์เหนือ และมณฑลคัมเบรีย...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พายุ 'แฟรงค์' ทำให้บ้านเรือนกว่า 5,000 หลังในภาคเหนือของสกอตแลนด์ และในเวสต์เทิร์นไอล์ส ประสบปัญหาไฟฟ้าดับ ประชาชนหลายร้อยครัวเรือนต้องอพยพออกจากเมืองดัมฟรีส์, ฮาวิค และพีเบิลส์ บริเวณชายแดนสกอตแลนด์ นอกจากนี้ทางการยังประกาศเตือนภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่
ขณะที่ ไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่พายุ แฟรงค์ ขึ้นฝั่ง เกิดปัญหาการจราจร และน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ นับจนถึงช่วงเที่ยงวันพุธ มีบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างกว่า 20,000 แห่งที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่เที่ยวบินหลายเที่ยวที่มุ่งหน้ามายังกรุงดับลินต้องเปลี่ยนเส้นทางการบิน
ส่วนที่อังกฤษ หมู่บ้านในมณฑลคัมเบรียกำลังจะต้องเผชิญน้ำท่วมเป็นครั้งที่ 4 ในรอบหลายสัปดาห์ ส่วนที่เมืองยอร์ก น้ำจากแม่น้ำอูส และแม่น้ำฟอส เอ่อล้นตลิ่งและทะลุแนวป้องกันน้ำท่วม เข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 500 หลังในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่มีรายงานว่า อิทธิพลจากพายุลูกล่าสุด ทำให้เกิดฝนตกไม่หนักเท่าที่คาดการณ์
ขณะเดียวกัน เมืองแทดแคสเตอร์ ใกล้เมืองยอร์ก ถูกแบ่งแยกเป็น 2 ส่วน หลังจากสะพานข้ามแม่น้ำวาร์ฟ (Wharf) ซึ่งมีอายุมากกว่า 200 ปี พังถล่ม โดยหน่วยงานบริหารท้องถิ่นยืนยันว่าจะรีบซ่อมแซมสะพานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
รัฐบาลของสหราชอาณาจักรได้ส่งทหารไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อช่วยป้องกันน้ำท่วม เช่น ที่เมืองครอสตัน มณฑลแลงคาเชอร์ เฮลิคอปเตอร์ชีนุ๊กของกองทัพอากาศอังกฤษ (RAF) ดำเนินการส่งถุงทรายจำนวน 200 ตันไปให้เพื่อสร้างทำนบกั้นน้ำ รัฐบาลยังได้เพิ่มงบประมาณสำรองเพื่อรองรับความเสียหายจากน้ำท่วมในคัมเบรียเป็น 50 ล้านปอนด์ แต่บริษัทประกันประเมินว่ามูลค่าความเสียหายของทรัพย์สินที่ไม่มีประกันอาจถึง 1 พันล้านปอนด์
